ลิเวอร์พูล โกงความตาย คู่ที่ 1 เบรท์ฟอร์ต 0-2 เชลซี วันนี้เชลซีใช้ระบบ 3-5-2 ใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ผสมกับผู้เล่นดาวรุ่ง นำมาโดยเซซาร์ แอสพริเตก้า และเคปา อริซาบาบาก้าได้ลงเป็นตัวจริง ครึ่งแรกเชลซีบุกใส่เจ้าบ้านอย่างหนักแต่จบสกอร์ไม่คมพอเลยทำอะไรไม่ได้ ส่วนเบรนท์ฟอร์ตก็มีจังหวะสวนกลับที่น่ากลัวแต่ไม่ผ่านเคปา
จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0 ครึ่งหลังโธมัส ทูเคิ่ล ปรับแผนส่งพูลิซิคและจอร์จินโญ่ลงมา กว่าประตูแรกจะเกิดขึ้นก็ต้องรอนาทีที่ 80 จากการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นเบรนท์ฟอร์ต จากนั้นเชลซีมาได้ประตูปิดกล่องจากจุดโทษของจอร์จินโญ่

คู่ที่ 2 ลิเวอร์พูล 3-3 เลสเตอร์ ซิตี้ (จุดโทษ 5-4)
วันนี้ ลิเวอร์พูล เลือกที่จะพักนักเตะตัวหลักและใช้ตัวสำรองและผู้เล่นดาวรุ่งลงสนาม ผู้รักษาประตูวันนี้ใช้เป็นคลีวิน เคเลเฮอร์ เซ็นเตอร์คู่เป็นโจ โกเมซกับคู่กับบิลลี่ คูมิติโอ้ กองกลางใช้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่พึ่งหายจากอาการป่วย ลงเล่นร่วมกับ ไทเลอร์ มอร์ตัน และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
สามประสานแดนหน้าเป็นทาคุมิ มินามิโนะ,โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และเนโก้ วิลเลียมส์ วิงแบ็กที่ถูกดันขึ้นเป็นกองหน้าตัวริมเส้น ส่วนทีมเยือนส่วนใหญ่จะเป็นตัวจริงใช้วิลฟริด เอ็นดีดี้ ยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค สามประสานแดนหน้าเป็นพัตสัน ดาก้า,เจมส์ แมดิสันและเจมี่ วาร์ดี้

ครึ่งแรกลิเวอร์พูลเสียประตูตั้งนาทีที่ 9 และ นาทีที่ 13 จากเจมี่ วาร์ดี้ ด้วยความผิดพลาดของประการหลังตัวกลางลิเวอร์พูล แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่ฟิร์มิโน่ ย้อนให้อ็อกซ์เลดแชมเบอร์เลนยิงแถวสองเข้าไป แต่เจมส์ แมดิสัน ก็มายิงประตูสุดสวยตัดกำลังใจลิเวอร์พูลในนาทีที่ 33 จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลตามหลังเลสเตอร์ 1-3 ครึ่งหลังเจอร์เก้น คล็อปป์ต้องแก้เกม ส่งนาบี เกอิต้า,เจมส์ มิลเนอร์,อิบราฮิม่า โคนาเต้
และดิโอโก้ โชต้าลงมา และเกมก็เปลี่ยนทันทีเมื่อโชต้าทำประตูตีตื้นให้ลิเวอร์พูลเป็น 2 ประตูต่อ 3 ในนาทีที่ 68 ลิเวอร์พูลโหมบุกหนักเพื่อทำประตูตีเสมอขณะที่เลสเตอร์รับรอสวนและพยามดึงเกมให้ช้า เกมทำท่าจะจบแต่นาทีที่ 90+5 ช่วงทดเวลา มินามิโนะก็ทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูลได้ ทำให้ทั้งสองทีมต้องดวลจุดโทษ สุดท้ายคลีวิน เคเลเฮอร์ เหนียวกว่าแคสเปอร์ ชไมเคิล สกอร์จบที่ 5-4 ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
บทความเกี่ยวกับฟุตบอลเพิ่มเติม >>> http://www.comptoncricketclub.org/